วัดศรีชุม อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย - sbobetJoz

Breaking

Post Top Ad

Post Top Ad




วันอังคารที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2562

วัดศรีชุม อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย


วัดศรีชุม  อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย

sbobetJoz จำได้ว่าในสมัยที่เราเรียนวิชาใดวิชาหนึ่งในสมัยเฟรชชี่เนี่ย มีคำถาม 1 คำถามที่อาจารย์ถามเราว่า “รู้จักพระอจนะพูดได้กันหรือเปล่า? รู้มั้ยว่าเป็นยังไง” เราก็งงสิพระพูดได้ คือถ้าเป็นพระสงฆ์เราก็เข้าใจ แต่นี่อาจารย์ท่านหมายถึงพระพุทธรูป แล้วพระพุทธรูปพูดได้ มีด้วยหรอ ที่ไหนกัน หลังจากทั้งห้องเงียบกริปไป ท่านก็บอกเรามาว่า “ไม่รู้จักกันใช่มั้ยล่ะ งั้นไปหาข้อมูลเขียนรายงานมาส่ง 1 หน้ากระดาษ A4” น่าน!! งานเข้าเลยทีเดียว แต่เราก็คิดว่าในเมื่อเราไม่รู้จักเราก็ควรจะไปหาความรู้เพิ่มเติมเอาไม่ใช่ให้อาจารย์ท่านคอยบอกเพียงอย่างเดียว และด้วยความที่เราก็เป็นคนขี้สงสัยมากเสียด้วย หลังจากเลิกเรียนก็ตรงกลับหอและเปิดหาข้อมูลกันทันที และความทรงจำในอดีตนี้เองค่ะที่มันทำให้เราอยากจะไปเที่ยวสถานที่ดังกล่าวกัน และวันนี้เราจะไปสัมผัสกับความศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ว่าศาสตร์ใดก็ไม่สามารถตอบคำถามได้กันค่ะ ไม่ใกล้ไม่ไกล จังหวัดสุโขทัยนี่เองค่ะ

เข้าเรื่องของเราอย่างไม่ต้องพูดพล่ำทำเพลงเลยแล้วกันนะคะ จุดหมายปลายทางของเราอยู่ที่จังหวัดสุโขทัย “วัดศรีชุม” หรือ “วัดปอยดำ” เป็นโบราณสถานที่อยู่ในเขตของอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย เช่นเดียวกับ วัดพระศรีมหาธาตุราชวรมหาวิหาร ค่ะ และที่เราจะพาเพื่อนๆไปให้เห็นกับตาในสิ่งที่เราเล่าไปแล้วก็คือ “พระอจนะ”พระพุทธรูปปางมารวิชัย ประดิษฐานอยู่ในมณฑป และอีกหนึ่งสาเหตุของความศักดิ์สิทธิ์เราจะพากลับไปในสมัยอยุธยา เมื่อครั้งสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงประกาศอิสรภาพ ในปีพุทธศักราช 2127 ณ เมืองแครง ทำให้หัวเมืองต่างๆยกเลิกการส่งส่วยให้กับพม่า แต่ยังมีเมืองอยู่เมืองหนึ่งที่ยังคงภักดีส่งส่วยให้กับพม่าไม่ขาด นั่นก็คือเมืองเชลียง หรือเมืองสววรคโลกนั่นเองค่ะ และด้วยเหตุที่ไม่ยอมทำตามพระราชโองการนี้เอง ทำให้พระนเรศวรมหาราชต้องนำทัพเสด็จไปปราบ แต่ก่อนหน้านั้นได้มีการมาชุมนุมที่วัดศรีชุมก่อนที่จะไปตีเมืองเชลียง การรบในครั้งนี้เป็นการรบระหว่างคนไทยเราด้วยกัน ทำให้เหล่าทหารไม่มีกำลังใจในการรบและไม่อยากรบ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชจึงได้มีการวางแผนสร้างขวัญและกำลังใจให้กับทหารเหล่านั้น โดยการให้ทหารนายหนึ่งปีนบันไดขึ้นไปทางด้านหลังขององค์พระพุทธรูปและพูดให้กำลังใจแก่เหล่าทหาร และด้วยเหตุนี้เองค่ะที่ทำให้เกิดตำนาน “พระพูดได้” และณ วัดศรีชุมแห่งนี้ยังได้มีการจัดพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาอีกด้วยค่ะ เราจะกลับมาพูดถึงในส่วนความหมายของพระอจนะกันค่ะ คำว่า “อจนะ” มีความหมายในภาษาบาลี “อจละ” แปลว่า ผู้ไม่หวั่นไหว หรือ ผู้ที่ควรแก่การเคารพกราบไหว้ และถ้าท่านใดที่ได้ไปเที่ยว ณ วัดศรีชุมแห่งนี้แล้วก็อย่าลืมไปกราบไหว้ของพรท่านกันนะคะ

ด้วยความที่วัดแห่งนี้สร้างมาตั้งแต่ในสมัยของพ่อขุนรามคำแหง โดยปรากฎหลักฐานในศิลาจารึกสุโขทัยหลักที่ 1 ว่าเบื้องตีนนอนเมืองสุโขทัยนี่…รากผัก…มีพระอจนะ มีปราสาท” จากประโยคนี้อะไรก็ไม่ทำให้เรางงเลยนอกจากคำว่ารากผัก” จริงๆแล้ว วัดศรีชุม” ซึ่งก็มีการเรียกว่า “ห้าเบี้ย” มาจากคำเรียกพื้นเมืองเดิมของไทยว่า “รากผัก” มีความหมายว่า ต้นโพธิ์ ดังนั้นแล้วชื่อ “ศรีชุม” จึงหมายถึงดงของต้นโพธิ์ แต่เมื่อล่วงเข้าสมัยอยุธยาตอนปลายมีการเข้าใจความหมายที่ผิดไป ทำให้มีการระบุถึงในพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาในทำนองว่า ที่มาของชื่อวัดศรีชุมมาจาก “ฤาษีชุม”นั่นเองค่ะ ด้วยความที่เป็นวัดเก่าทำให้ต้องมีการบูรณะครั้งใหญ่ในสมัยของพระเจ้าลิไทยและได้รับการดูแลบูรณะเรื่อยมา ครั้งล่าสุดก็คือในปีพุทธศักราช 2495 สมัยรัชกาลที่ 9 โดยศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรีและอาจารเขียน ยิ้มสิริค่ะ

ในส่วนของพระมณฑปนั้นกว้างด้านละ 32 เมตร สูง 15 เมตร ผนังหนาถึง 3 เมตร ทางผนังด้านซ้ายมีการเจาะทำเป็นบันไดในตัวผนังไปจนถึงหลังคา ตามฝาผนังตามช่องอุโมงค์ที่เจาะดังกล่าวนี้มีภาพเขียนเก่าและแต่ละภาพก็เลอะเลือนไปเกือบหมดแล้ว สันนิษฐานว่าภาพเขียนนี้มีอายุเกือบๆ 700 ปีเลยทีเดียวค่ะ เพดานของผนังนั้นมีแผ่นหินชนวนที่สลักภาพลายเส้นเป็นเรื่องในชาดกต่างๆ จำนวน 50 ภาพ เรียงต่อเนื่องกันเป็นเรื่องราว และภาพเขียนเหล่านี้เองค่ะที่ถือได้ว่าเป็นงานจิตรกรรมฝาผนังไทยที่เก่าแก่ที่สุด

หากท่านใดสนใจจะไปเที่ยวก็ไม่ควรพลาดวัดศรีชุมแห่งนี้ เพราะ นอกจากเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์ศรัทธาแล้ว ไม่ต้องไปพูดถึงความงดงามเลยด้วยค่ะ ก็จัดว่าเป็นวัดที่สามารถดึงความเชื่อ ความศรัทธาของเราไว้ได้อย่างไม่เสื่อมคลาย และถ้าหากไปสุโขทัยแล้วไม่ไปวัดแห่งนี้ ถือว่าไปไม่ถึงเลยทีเดียวนะคะ





ขอขอบคุณข้อมูลจาก        ท่องทั่วไทย.com


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Top Ad

Responsive Ads Here